[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”][/siteorigin_widget]
ปรากฎการณ์ ‘การเมืองไทย’ ขณะนี้ ถ้านำเทคโนโลยี VAR หรือ The Video Assistant Referee มาช่วยกันดูภาพย้อนหลัง จะทำให้ประชาชนตัดสินใจได้แม่นยำ เหมือนใน World Cup ที่รัสเซีย

ดีลที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ชี้ขาดให้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยมี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเสาหลัก ทั้งที่เคยประกาศเลิกเล่นการเมืองบนเวทีชุมนุมกลุ่มกกปส. เมื่อ 2 ธันวาคม 2556 แต่คำร้องขอจากคนที่ยากจะปฏิเสธและเงื่อนไขคดีที่ยากจะเมินเฉย จึงเป็นที่มาของ ‘น้ำตา’ นักเลงโบราณ นักการเมืองรุ่นใหญ่

ขณะที่ตัวสุเทพเอง วางเส้นทางการเมืองแบบ ขับเคลื่อน อยู่เบื้องหลัง ไม่รับหรือมีตำแหน่งใดๆ เพราะสุดท้ายบั้นปลายชีวิตเขาตั้งใจจะไปอยู่พม่า เริ่มมองหาที่ดินแถวๆ เมืองทวายเอาไว้ แต่ดูเหมือนจะไปได้ไกลแค่ อาคารทู แปซิฟิคเพลส ออฟฟิสธุรกิจหรูในย่านถนนสุขุมวิท

อีกพรรคที่วุ่นๆ อยู่ขณะนี้คือพรรคเพื่อไทยเริ่มตั้งแต่ระดับบน ตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไม่มีใครคิดว่าลึกๆ แล้ว 2 คุณหญิง คือ คุณหญิงพจมาน แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า จะไม่ขัดข้อง ไม่มีคำว่าปฏิเสธ ในการที่ คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่…อดีตจะไม่ถูกนำมาฉายซ้ำให้ช้ำใจแน่นอน

แรงต้านคุณหญิงหน่อยในพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงมีให้เห็นทั้งบ้านบางบอน บ้านเจ๊แดง บ้านเฮียพ. ไปจนถึงส.ส.ในโซนอีสานและเหนือ รวมถึงแกนนำนปช. แต่นาทีนี้ใครหนอ จะมองทะลุจริงๆ ถ้าไม่ใช่เจ้าของเงินทุนพรรค ถ้าใส่งบประมาณไปก็ น้ำซึมบ่อทราย โอกาสชนะคสช.มีแต่น้อย ควักไปก็ไม่คุ้มค่า อย่าเดิมพันหมดหน้าตักดีกว่า

สเปคของหัวหน้าพรรคคนใหม่จึงต้องเป็นนักประสานที่สามารถหาเงินมาสู้ศึกเลือกตั้งได้ และคุยกับพันธมิตรอย่างไม่ขัดเขิน ชื่อของ จาตุรนต์ ฉายแสง ชื่อของ วัฒนา เมืองสุข มีวาร์ปๆ เข้ามาเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค แต่หากย้อนไปดูว่าทำไมจึงไม่ได้นั่งประมุขเสียที ทั้งๆ ที่มีอุดมการณ์ สู้กับรัฐบาลคสช. เปิดหน้าซัดกับ ‘มือที่มองไม่เห็น’ เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง ก็โจทย์ตอนนี้แค่ ออกตัวไม่ ออกตังค์ ยังไม่ใช่คำตอบ

ความปั่นป่วนในเพื่อไทย ไม่จบสิ้นเมื่อสัญญาณทางการเงินสะดุด ระดับพื้นที่ก็อยู่สภาพแตกกระสาน เมื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กอดคอเพื่อนรัก ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน ตั้ง กลุ่มสามมิตร รับหน้าเสื่อแม่ทัพออกเดินสายดูดอดีต ส.ส. ทั่วประเทศ เข้าสังกัด พรรคพลังประชารัฐ โดยมีแววว่า สุริยะ จะรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคนี้เองด้วย ซึ่งล่าสุดอาจมี 30 อดีตส.ส. เตรียมทิ้งพรรคเพื่อไทยย้ายค่ายไปอยู่ด้วย

คนอย่างสุริยะที่หายหน้าหายตาไปจากการเมืองนับสิบปี เพราะอดีตรมว.คมนาคมคนนี้ โดนคดีทุจริตเครื่องตรวจสัมภาระที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ คดี CTX จนเหมือนว่าหลุดรอด ป.ป.ช. ไปได้หวุดหวิด กลับมาเที่ยวนี้จึงรับภารกิจสำคัญสานฝันให้ทั่นผู้นำไทย

การเปิดหน้าลุยของ สุริยะ จะเกี่ยวกับ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ก็ต้องลองเช็คความสัมพันธ์ของทั้งสองบิ๊กแห่งไทยซัมมิตดู จะเห็นอดีตอันขุ่นมัว เมื่อแนวคิด แนวทางที่มองดูจะเป็นเส้นขนานกันมาแต่หนหลัง ภาพอนาคตจึงยังไม่ชัดเจน

ครั้งหนึ่ง สมพร เคยเข้าไปซื้อหุ้นเครือเนชั่นเพราะมั่นใจศักยภาพของสุทธิชัย หยุ่น และเห็นถึงความตั้งใจของลูกชาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่สนใจการเมืองอย่างจริงจัง แต่การณ์กลับไปไม่เป็นดังนั้น เพราะสิ่งที่ได้กลับมาจากเครือเนชั่น คือราคาหุ้นที่ลดลงและการบริหารงานที่ไม่ชัดเจน ทำให้เธอ เหมือนเป็นคนอื่น มากกว่าผู้ถือหุ้นรายสำคัญ

สุดท้าย สมพร จึงตัดสินใจทิ้งหุ้นสื่อใหญ่ย่านบางนา มาสู่คลองประปา เครือมติชนที่นี่นางสมพรมอบให้ลูกชาย นายธนาธร เข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารอย่างเต็มเหนี่ยว และได้รับการต้อนรับจากผู้บริหารมติชนดีกว่า อบอุ่นกว่า ตอนอยู่เนชั่น เคมีตรงกัน จนเป็นฐานการเมืองของธนาธรในขณะนี้

มีการประเมินเสียงของ พรรคอนาคตใหม่ คาดว่าคะแนนส่วนใหญ่น่าจะเป็นกลุ่มคนไม่ชอบคสช. นิสิต นักศึกษา นิวเจนฯ และเอ็นจีโอในกทม.และหัวเมืองใหญ่ๆ วิเคราะห์ว่าน่าจะได้ สส.อย่างมากสุดประมาณ 15-17 คน คงต้องเลี้ยงกระแส (ความนิยม) ของพรรค ส่ง ส.ส. ลงสมัครครบ 350 เขต สร้างจุดขาย ไพร่หมื่นล้าน เสริมจุดต่างที่ไม่ทับซ้อนกับพรรคเพื่อไทย ไม่งั้นตัดคะแนนกันเองแน่

ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ยังนิ่งๆ แต่ไหลลึกๆ ถ้าขยับมากไปอาจจะเกิดปัญหาพรรคแตก โดยนายหัวชวน หลีกภัยทราบสถานการณ์ดีว่าภายในพรรคบางส่วนไม่ยอมรับหัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มากขึ้นทุกขณะ เป็นชอตที่ยังแก้ไม่ตก รอกฎหมายเปิดทางการประชุมพรรคการเมือง เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้นั่นล่ะ จะถึงจุดแตกหัก

กลายเป็นศึกชักกะเย่อ…ระหว่าง สองขั้วในค่ายเดียวกัน เมื่อสมาชิกสายปชป.แท้ สลับหน้ากันออกมากระทุ้งคสช. เพราะรู้ดีว่ารัฐบาลชุดต่อไป อย่างไรเป็นรัฐบาลผสม โอกาสของปชป.ก็เป็นได้แค่เพียงไม้ประดับในรัฐสภา ขณะที่ซีกของสายกกปส. เก่า บางส่วนยังไม่ทิ้งประชาธิปัตย์ไปอยู่กับรวมพลังประชาชาติไทย เพราะรู้ดีว่าพื้นที่ภาคใต้ยังไงก็ต้องสวมเสื้อฟ้า