4 กลุ่มเสี่ยงโรคงูสวัด เหตุเกิดจากไวรัสวาริเซลลา ย้ำบางรายเป็นเรื้อรัง แนะทางป้องกันหลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วย พร้อมชูทางเลือกใหม่ฉีดวัคซีน zoster ป้องกันโรค เน้นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

หลังจากมีข่าวคราว บางคนฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วมีผลข้างเคียงเป็น “โรคงูสวัด” ตามมา ก็เลยทำให้โรคนี้ถูกกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เป็นกันได้อย่างไร นพ.สมศักดิ์  อรรฆศิลป์  อธิบดีกรมการแพทย์ออกมาอธิบายว่า  “โรคงูสวัด” เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่เรียกว่า ไวรัสวาริเซลลา (varicella virus) ซึ่งเป็นเชื้อเดียวกับไวรัส ที่ทำให้เกิดโรคสุกใส และเป็นไวรัสที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับไวรัสเริม

ผู้ป่วยเมื่อเป็นโรคสุกใสแล้ว เมื่อหายจากโรค เชื้อไวรัสจะเข้าไปซ่อนในปมประสาท และจะถูกกระตุ้นเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ซึ่งไวรัสจะมีการแบ่งตัว ทำให้การปล่อยเชื้อไวรัสออกมาตามแนวเส้นประสาท

อาการเบื้องต้นคือ ปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนัง ซึ่งถูกควบคุมโดยแนวเส้นประสาทนั้น ต่อมาจะมีผื่นแดงตามด้วยตุ่มน้ำ ในลักษณะเป็นกลุ่มเรียงตัวตามแนวเส้นประสาท โดยที่ตุ่มน้ำสามารถกลายเป็นตุ่มหนองและแตกเป็นแผล หรือเป็นสะเก็ดตามมาได้ หลังจากอาการทางผิวหนังหายแล้ว อาจมีอาการปวดเรื้อรังในผู้ป่วยบางราย รวมถึงอาจมีแผลเป็นตามหลังได้

สำหรับการเกิดการกระตุ้นของไวรัส varicella ที่ทำให้เกิดโรคงูสวัดนั้น มักเกิดขึ้นใน 4 กลุ่มเสี่ยง ดังนี้

• ผู้สูงอายุ
• ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• ผู้ป่วยที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน
• ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้ยาเคมีบำบัด ]

อาการของโรคที่พบมีความรุนแรง มากกว่าผู้ป่วยทั่วไปที่สามารถหายเองได้  ส่วนใหญ่มักมีอาการทางผิวหนัง ในบางรายที่มีตำแหน่งใบหน้า อาจจะต้องระวังโรคงูสวัดเข้าดวงตา ควรได้รับการปรึกษาจักษุแพทย์

อีกทางเลือกของแพทย์ในการป้องกันโรคนี้ คือ การฉีดวัคซีน (Zoster vaccine) พญ.มิ่งขวัญ  วิชัยดิษฐ  ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์  ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การฉีดวัคซีน zoster ถือเป็นเครื่องมือใหม่สำหรับให้แพทย์เลือกใช้ โดยจะใช้ในผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี อย่างไรก็ตามการป้องกันที่ดีที่สุด คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ

ส่วนการรักษาโรคงูสวัดนั้น มีทั้งการรักษาตามอาการ และการรักษาร่วมกับการใช้ยาต้านไวรัส เพื่อช่วยให้การหายของโรคเร็วขึ้น และให้ยาแก้ปวดปลายเส้นประสาท เพื่อป้องกันและลดความทุกข์ทรมานจากโรคงูสวัด หากสงสัยว่าเป็นโรคงูสวัด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากการรักษาในช่วงแรกของโรคมีผลการรักษาที่ดีกว่า