การได้มา เมกกะแห่งสวนสนุกระดับโลก ณ เมือง Orlando รัฐ Florida ตะลุยฝั่งตะวันออกของอเมริกา นับเป็นความสุขหรรษา เพราะนี่คือ อาณาจักรความฝัน ของคนรักภาพยนตร์สไตล์ดีสนีย์ ยูนิเวอร์แซล มาร์เวล เหมือนลาลาแลนด์ที่พาเราวาร์ป ไปได้ไกลสุดขอบจินตนาการ

เครื่องบินจาก Washington DC มาลงที่สนามบิน Orlando International Airport เสร็จแล้วมีรถบัสของดีสนีย์รีสอร์ตมารับตรง EXIT โอวว..คิวเช็คอินยาวเหยียดและคลาคล่ำไปด้วยผู้โดยสารซึ่งหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก

แม้จะต่างชาติต่างภาษาแต่ทุกคนมาเพราะหลงรักในคาแรคเตอร์ของเหล่าตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นบนจอภาพยนตร์ ซึ่งอีกไม่นานโลกเสมือนจริงของตัวการ์ตูนและซุปเปอร์ฮีโร่ ก็จะกระโจนออกมาพบเราอย่างใกล้ชิดแน่นอน

การมาเที่ยวดินแดนแห่งสวนสนุกที่ Orlando จริงๆ มีโรงแรมให้เลือกมากมายหลายแห่ง ไม่จำเป็นต้องพักที่ Disney’s Pop Century Resort ก็ได้ แต่เพื่อให้ง่ายต่อการเดินทาง เพราะห่างจากสนามบินเพียง 30 นาที และสามารถเชื่อมต่อไปยังบรรดาสวนสนุกแบบ Theme Park ของ Disney World ได้เลย เราจึงตัดสินใจเอาล่ะ! ใช้ที่พักของดีสนีย์เป็นเซ็นเตอร์ดีกว่า แม้จะแพงจนเลือดซิบเมื่อคิดราคาแบบไทยๆ คืนละหมื่นกว่าบาทแต่คุ้มค่า เพราะเค้าจะมีรสบัสรับส่งแขกไปยังพาร์คเหล่านี้ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงค่ำคืนแบบฟรี!

พักกินเที่ยวที่ Disney Resort 

แล้วการใช้ชีวิตอยู่ใน Disney’s Pop Century Resort จริงๆ ก็สนุกสนานไม่ธรรมดา เอามาเขียนเล่าเป็นประสบการณ์ได้หลายหน้า ตั้งแต่เรื่องการตกแต่งสถานที่ให้ดูเก๋ไก๋ชไนเดอร์ น่ารักสไตล์ยุค’50-90 แบ่งเป็นสัดเป็นส่วน ทั้งๆ ที่มีห้องพักถึง 5,760 ห้อง รองรับนักท่องเที่ยวทั้งแบบครอบครัวและทริปส่วนตัวสบายๆ

สวนสนุก Disney world
สวนสนุก Disney world
สวนสนุก Disney world

ตรงกลางของทุกอาคารคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่เด็กๆ จะได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสีสันของตัวการ์ตูนและแสงไฟในยามค่ำคืนเปิดกันยาวไปจนถึงสี่ทุ่ม

ขณะที่เรื่องของ Food ก็อลังการ เพราะรอบๆ รีสอร์ต ไม่มีสตรีทฟู้ดให้เรารับประทานเหมือนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เราจึงต้องใช้ชีวิตข้างในนี้ให้คุ้มค่า เค้าจะมีแก้วดีสนีย์ให้แขกคนละหนึ่งใบ คุณจะเลือกกดน้ำอัดลม น้ำดื่ม กาแฟ น้ำส้ม เท่าไหร่ก็ได้ไม่อั้น เสร็จสรรพแล้วนั่งกินที่ศูนย์อาหารเลยหรือกลับไปดื่มในห้องพักก็ตามแต่สะดวก 

ส่วนอาหารจานหลักเช้า กลางวัน เย็น ใช้สายรัดข้อมืออิเล็คทรอนิกส์ไปซื้อติ๊ดๆ จากเคาน์เตอร์ได้เลย ไม่ต้องใช้เงินสดให้ยุ่งยาก เช็คเอาท์เมื่อไหร่ก็ค่อยบวกลบคูณหารกัน

ผมใช้เวลาพักที่ Disney’s Pop Century Resort สามคืนเต็มๆ เพราะต้องการเที่ยว Theme Park ให้ได้มากที่สุด ไหนๆ ก็ตั้งใจมาถึงนี่แล้ว นับเป็นครั้งหนึ่งและครั้งเดียวในชีวิต ต้องเอาให้คุ้มค่าน่าประทับใจ 

เราแพลนความมันส์ไปกับสวนสนุกที่เป็นสุดยอดไฮไลต์ 3 ใน 4 แห่งของดีสนีย์เวิร์ล คือ Disney-Animal Kingdom , Disney-Epcot และ Disney-Magic Kingdom ที่สำคัญก็คือในแต่ละปาร์คที่ไปนั้น ได้จองโต๊ะรับประทานอาหารแบบ Exclusive กับบรรดาเจ้าหญิงในเทพนิยายอมตะและตัวการ์ตูนชื่อดังในตำนานอีกด้วย

Animal Kingdom โลดแล่นในโลกเสมือนจริง

ใครชอบภาพยนตร์เรื่อง อวตาร (Avatar) ไม่ควรพลาด Disney-Animal Kingdom ครับ เราสตาร์ตออกจากรีสอร์ตตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เพื่อไปตั้งแต่สวนสนุกเปิดตอน 8.00 น. โดยการพักที่ Disney Resort ช่วยทำให้ได้สิทธิพิเศษในการเข้าก่อนเวลาถึงหนึ่งชั่วโมง พวกเราตั้งใจอยู่จนถึงปิดนั่นเลยครับ และเมื่อไปถึงก็ต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์จริงๆ ไม่ใช่ผู้มาคนแรกๆ แต่นักท่องเที่ยวร้อยแปดพันเก้าก็มากันเต็มพรึ่บแล้วล่ะครับ

ท่ามกลางพื้นที่มากมายนับหมื่นตารางเมตรมีการสร้างฉากสุดยิ่งใหญ่อลังการเหมือนเราอยู่ในดาว Pandora ทีเดียว นั่นคือ Tree of Souls ต้นไม้แห่งชีวิตและจิตวิญญาณขนาดใหญ่ยักษ์ ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์แรกที่เมื่อทุกคนเดินเข้าไปก็จะต้องตื่นตาตื่นใจ ทำให้นึกถึงตอนที่พระเอกเชื่อมต่อสายสัมพันธ์กับนางเอก เกิดเป็นความรักความผูกพันของมนุษย์กับชนเผ่า เพื่อร่วมต่อสู้กับผู้รุกราน

สวนสนุก Disney world
สวนสนุก Disney world

เป็นสัมผัสแห่งประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่งจากดีสนีย์แห่งอื่นๆ ก็คือโซน Mountain Banshees ภูเขาลอยน้ำที่เต็มไปด้วยป่าเรืองแสงหรือ Bioluminescent Forest พร้อมต้นกำเนิดของ Direhorse และเหล่า Na’vi ทั้งหลาย

ในตอนกลางคืน Disney-Animal Kingdom ก็มีการจัดแสงสีเสียง Tree of souls อย่างจิตรตระการตา ยิ่งทำให้ต้นไม้ยักษ์ สายน้ำตก และสรรพสัตว์แห่ง Pandora มีชีวิตชีวาราวกับเราเข้าไปอยู่ในดาวนั้นจริงๆ

สวนสนุก Disney world
สวนสนุก Disney world

ส่วนเครื่องเล่น Flight of Passage at Pandora: World of Avatar ก็กลายเป็นหนึ่งในสุดยอดของการต่อคิวยาวที่สุดใน Disney-Animal Kingdom ทีเดียว ถ้าใครมาถึงแล้วไม่ได้นั่ง Simulator นี้ ถือว่าไม่คุ้มค่าครับ เพราะดีสนีย์ทำเครื่องเล่นนี้ได้ดีมากๆ จำลองฉากมาจากหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนเรากำลังบนอยู่บนเจ้านกดึกดำบรรพ์ที่ช่วยให้พระเอกล่องลอยเหนือดินแดน Pandora และเมื่อต้องต่อสู้กับผู้รุกรานอารยธรรมจากโลก ก็ทำได้อย่างน่าลุ้นจริงๆ

Simulator พาเราไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของ Tree of Souls และสู่ความเวิ้งว้างของท้องทะเลกว้างใหญ่ที่ย้อนกลับไปนับล้านๆ ปี

Dino Land สวนสวรรค์แห่งไดโนซอรัส

สวนสนุก Disney world
สวนสนุก Disney world

โซนที่เรียกว่า Africa พาเราซาฟารีสนุกๆ ลุยๆ มันส์ๆ นั่งรถผ่านทุ่งสวันน่า เจอสัตว์ที่หาชมได้ยากยิ่ง เช่น สิงโตอาฟริกา ลิงอุรังอุตังหรือยีราฟที่ออกหากินแบบเป็นธรรมชาติ นก 34 สายพันธุ์ต้นไม้พืชพันธุ์แปลกๆ รวมถึงอาณาจักรสวนสัตว์ที่ชวนให้เราเข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิด

จากนั้นก้าวเข้าไปในเธียเตอร์เพื่อชม Festival of the Lion King ที่สุดป็อบปูลาร์และมุ่งหน้าสู่ Village of Harambe หมู่บ้านที่มีทุกอย่างทั้งร้านอาหารสไตล์อาฟริกัน ขนมหวาน ดนตรีที่จังหวะเร้าใจด้วยเครื่องเคาะจังหวะมากมายเรียกว่าแอฟริกันขนานแท้ทีเดียว

สวนสนุก Disney world

แน่นอน หนึ่งในสัตว์ที่มาถึง Disney-Animal Kingdom แล้วขาดไม่ได้ก็คือ ไดโนเสาร์ ต้องเดินเข้าโซน Dino Land ซึ่งมีทั้งเครื่องเล่นแบบผู้ใหญ่ที่จะได้ประจันหน้ากับไดโนซอรัสราวกับอยู่ในยุคจูราสสิก

มื้อกลางวันเราเลือกทานอาหาร Buffet Lunch ที่ร้าน Tusker House ซึ่งอยู่ในโซน Africa นั่นเอง ข้างในบรรยากาศดีมากๆ มีอาหารสไตล์ตะวันตกให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งเนื้อสเต็ก สตูว์ สลัด ขนมหวานน่าทานทั้งนั้น สนนราคาก็ประมาณ 52 ดอลลาร์ ส่วนเด็กคิด 32 ดอลลาร์ แต่ว่าที่เจ๋งกว่าคือได้เจอกับ Mickey Mouse Donald Duck และ Goofy ที่เดินมาเอ็นเตอร์เทนตามโต๊ะต่างๆ อย่างเป็นกันเอง 

สวนสนุก Disney world
สวนสนุก Disney world
สวนสนุก Disney world

เรียกว่าครบสูตรเลย สำหรับวันแรกของการตะลุยดีสนีย์แลนด์อเมริกา ทั้งอิ่มท้องและอิ่มเอมใจในโลกแห่งจินตนาการ กว่าจะได้กลับรีสอร์ทก็ปาเข้าไปเกือบ 3 ทุ่มแต่คุ้มค่าคุ้มเวลาจริงๆ ครับ