เจ้ากระดาษแผ่นเล็กๆ บางๆ ที่หลายคนใช้แปะไว้ตามเอกสารโน่นนี่นั่น โน่น ใช่แล้ว! Post-it เครื่องเตือนความจำชั้นดี สำหรับชีวิตคนทำงาน

เราหยิบยกเรื่องนี้ มาเล่าสู่กันฟัง เพราะหลายท่าน อาจไม่ทราบว่า นอกจากเขียนๆๆ อะไรก็ได้ ทิ้งไว้บน กระดาษสีแผ่นเล็กๆ นี้แล้ว ยังมี “ลูกเล่น” อะไรยังไงได้บ้าง

วันนี้เลยมีไอเดียสร้างสรรค์ คำแนะนำใช้ โพสต์อิท ให้มีเสน่ห์เกิ๊น ดูน่ารัก น่าสนใจ เอาไว้เป็นส่วนหนึ่งในการสื่อสารกับโลกสวยใบนี้

เทคนิคแรก ที่อยากให้ทดลองทำดู…ไม่ยาก อย่างการ “พับ” โพสต์อิทให้ “ตั้งขึ้น” มาให้ดูโดดเด่น แล้วแปะไว้บนแฟ้มหรือเอกสาร เขียนข้อความส่งผ่านไปถึงเจ้านายหรือฝ่ายอื่นๆ ในออฟฟิสซะ!

อ๊ะอ๊า…หรือถ้ายังไม่โดนพอ ก็ลองเอาใหม่อีกครั้งดูสิ คราวนี้ใช้วิธี “ปิด” เจ้าโพสต์อิทที่แปะเอาไว้นั้นไปเลย เหลือพื้นที่ให้เห็นข้อความหัวเรื่องแจ่มๆ อยู่นิดนึง ที่เหลือรายละเอียดซ่อนไว้ ทีนี้ล่ะ ใครๆ ก็อยากรู้ว่า… “เธอเขียนข้อความอะไรมาให้ฉันเนี่ยยย”

น่าสนุกกว่านั้นก็คือ การ “ตัด” กระดาษโพสต์อิท เป็นรูปทรงต่างๆ เพื่อสร้างความสนใจ เช่น ถ้าต้องการ “ลายเซ็น” จากบอสล่ะก็ เขียนโน้ตธรรมดาๆ เกรงว่าไม่สำเร็จ ลองโพสต์อิทเป็น หัวลูกศร มันซะเลย แล้วชี้ไปยังจุดที่เราต้องการบอกว่า…“ซิกเนเจอร์ ค่ะบอสขา”

บางคนยังมีวิธีที่ทำให้โพสต์อิทน่าสนใจ ด้วยการ “ฉีก” เป็นวงกลม แล้ววาดรอยยิ้มเอาไว้ พอใครเห็นก็ได้ใจ ไม่เครียดว่า “โอ้ย…ยัยนี่ โยนงานมาใช้ชั้นอีกแล้ว”

… เมื่ออารมณ์บรรเจิด การทำงานก็ง่าย ทุกคนก็ช่วยเราอย่างเต็มใจ

เห็นมะว่า การสื่อสารเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้เองได้ ทั้งภายในสำนักงาน ที่บ้าน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ จุดประกายไม่ให้ไลฟ์สไตล์ของเรา น่าเบื่อหรือจำเจเกินไป

……………………………….

ลองนำไปแปะใช้กันดูนร้าา…โพสต์อิท เพื่อชีวิตดี๊ดี 

ไม่ได้โฆษณา! แต่เรื่องจริงคือ โพสต์อิท ยุคแรกเป็นสินค้าของยี่ห้อ 3M  โดยมี สเปนเซอร์ ซิลเวอร์ (Spencer Silver) หนึ่งในทีมนักวิจัยของบริษัท ผู้ได้รับมอบหมายให้พัฒนากาว ให้มีประสิทธิภาพสูง ติดได้แน่น ทนทานถาวร

แล้วใครจะคิดว่า ในช่วงยุคปี พ.ศ. 2511 จะมีพนักงานกล้าคิดนอกกรอบ อย่างนายสเปนเซอร์คนนี้ เมื่อผลลัพท์ที่ออกมา เขากลับทำตรงข้ามกับเป้าหมาย กลายเป็นกาวอย่างอ่อน ติดง่าย ลอกได้ไม่ทิ้งร่องรอย

ต่อมาในปี พ.ศ.2517 อาร์เธอร์ ฟราย (Arthur Fry) นักวิจัยอีกคน ได้นำกาวชนิดนี้ มาใช้ติดกระดาษไว้คั่น คัมภีร์ไบเบิล ในหน้าบทสวดมนต์ที่เขาต้องการเวลาไปโบสถ์ เพราะคุณสมบัติติดง่าย ลอกได้ ไม่ทิ้งร่องรอยนี้เอง ทำให้บริษัทนำไปพัฒนาออกมาเป็นกระดาษโน๊ตสีเหลือง ที่มีแถบกาวบางๆ ออกจำหน่าย โดยให้ชื่อว่า “โพสต์อิทโน๊ต” (Post-it notes) 

ว้าววว…ปรากฏว่านวัตกรรมนี้ เป็นที่นิยมอย่างมาก เริ่มจากพนักงานบริษัท ที่ชอบเอามาติดตามหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าต่าง สมุดโน้ต

จนกระทั่งแพร่หลาย ออกมาเป็น โพสต์อิท กระดาษแผ่นเล็กๆ ที่มีอิทธิพลต่อคนทั่วโลก และเต็มไปด้วยสีสัน ลวดลาย แปลกตา ต่างๆ นาๆ ในปัจจุบัน

ขอบคุณข้อมูลจาก guru.sanook.com